วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

7 สิ่งที่จะทำให้ Final Fantasy 7 Remake กลายเป็นตำนานครั้งที่สอง

1. มันคือเกมส์ที่มีชีวิต
-- จากเวอร์ชั่น PS1 ที่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ มาเวอร์ชั่น Remake นี้จัดเต็ม ตัวละคร NPC ตามถนน ตามเมืองเวลาเราเดินผ่านมันจะมีบทพูดขึ้นมาเลย ไม่ต้องไปกดคุยก่อน ทำให้เรารู้ว่าชาวเมืองรู้สึกยังไง ทำอะไรกันอยู่ พอเหตุการณ์ผ่านไปบทพูดของพวกเขาก็จะเปลี่ยนใหม่เป็นอีกอย่าง ระหว่างการเดินทางไม่มีเหงาเลยจนบางครั้งต้องหยุดฟังมันคุยกันเพราะอยากรู้ชาวบ้านคิดยังไง บางคนสนุกสนาน บางคนเศร้า บางคนคุยเรื่อวข่าว บลาๆๆๆเยอะแยะมากมาย

2. ตัวละครหลักมีมิติมากขึ้น แสดงอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้
-- หลายๆเหตุการณ์กลุ่มตัวหลักจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ดีมาก ความรู้สึกห่วงใย ความรู้สึกเศร้า ความรู้สึกโกรธ มันสะท้อนได้ดีเพราะพวกเขานั้นก็เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งย่อมมีอารมณ์พวกนี้ และหลายๆเหตุการณ์ที่เราไม่เคยเห็นใน PS1 แต่ Remake นี้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาให้เห็นได้ดีเยี่ยม เช่น แอริธกับมารีน , ทีฟากับคลาวด์ , บาเร็ตกับมารีน มันเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก เกมส์นี้ทำให้พวกเขากลายเป็นคนจริงๆ จนคนเล่นรู้สึกผูกพันธ์กับพวกเขา

3. คัทซีนระดับเทพ
-- ฉากคัทซีนต่างๆยอดเยี่ยมมาก จังหวะมุมกล้อง จังหวะตัดภาพ มันเป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆตามสไตล์ของคุณโนมูระ ซึ่งคนนี้ผมยอมรับว่ากำกับคัทซีนเทพมาตั้งแต่หนัง FF 7 advent children แล้ว และต่อเนื่องมายังตระกูล KH แต่ FF7R นี้ผมว่ากำกับคัทซีนเทพกว่า KH เยอะ เพราะมันมีแอคชั่นเยอะกว่า และที่สำคัญคัทซีนกับเกมส์เพลย์ต่อเนื่องกันอย่างลงตัวไม่มีอารมณ์ว่ามันสะดุดเลย มันจะไหลต่อเนื่องกันจนคุณหยุดไม่อยู่

4. เพลงประกอบระดับตำนาน
-- เป็นการนำเพลงสมัย PS1 มาทำใหม่ ฟังแล้วติดหูมาก เพราะมากและเข้ากับฉากนั้นๆอย่างเนียนกริบ ตลอดระยะเวลาการเล่นไม่มีตรงไหนเลยที่รู้สึกว่าเพลงมันแปลกๆ เขาใส่มาได้เข้ากับฉาก เข้ากับสภานการณ์แบบสุดๆ และเพลงประจำตัวของเขาคนนั้น หูยยยยย ขนลุกยังไม่หาย....




5. เกมส์เพลย์แอคชั่นมันส์สะใจ
-- การเปลี่ยนระบบครั้งนี้เป็นอะไรที่คิดถูกมาก ใครที่ไม่ชอบ Action ลองเปิดใจและลองเล่น มันจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่ของเกมส์แอคชั่นที่สุดจริงๆ ตอนเล่นต้องผสมผสานทุกตัวละคร จะบังคับใครคนใดคนหนึ่งไปตลอดจนจบเลยทำไม่ได้แน่นอน เพราะทุกคนมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน และพอเอามารวมกันมาเสริมกันมันจะกลายเป็นการตะลุมบอนที่โหดมาก และมันส์สุดๆ ยิ่งตอน Boss Fight นะ โห ผมคิดว่านี่คือเกมส์ Boss Fight ที่สนุกและสะใจที่สุดแล้วเท่าที่ผมเคยเล่นมา แสงสีเอฟเฟคสวยงามตระกาลตา และไม่มั่ว คุณดูรู้เรื่องว่าใครทำอะไร ใครโดนอะไร สุดจริงๆกับแอคชั่นเกมส์เพลย์ แล้วคุณลองคิดดูอนาคตท้ายๆเกมส์พอเรามีท่าแรงๆมันจะมันส์ขนาดไหน คุณลองจินตนาการท่า omnislash ดูสิ..

6. side quest ที่ไม่น่าเบื่อและมีความพอด
-- เกมส์นี้ Side quest ไม่เยอะ แต่ล่ะอันมีคุณค่ามันเป็นส่วนที่มาช่วยเสริมให้เนื้อเรื่องหลักดูแน่นขึ้น ไม่มีหรอกเควสที่ไปกำจัดศัตรูตัวนุ้นที ไปหาของให้ที คือมันก็มีแหละแบบที่กล่าวมา แต่ชั้นเชิงในการนำเสนอมันทำให้เควสดูมีคุณค่าไม่ใช่แค่ไปบอกให้กำจัดศัตรูไปหาของดื้อๆ เขาจะใช้วิธีเรียบเรียงให้มันเกิดเหตุการณ์ขึ้น แล้วเราต้องไปเคลียร์ เควสรองเกมส์นี้ น้อยแต่มีคุณภาพ

7. เมือง Midgar แบบสเกล 1-1
-- เมืองที่คุณเห็นแค่แคบๆ เห็นแค่ภายนอกตอน PS1 ตอนนี้คุณเห็นมันแบบเต็มๆตา ตรงนู้นเป็นยังไง ตรงนี้เป็นแบบไหนคุณได้เห็นแน่ๆ ครั้งแรกที่ผมเห็น Wall market โหวววว คือมันทำมาดูดีมาก ทุกอย่างดูแน่น ทำให้เวลาที่คุณเดินในเมืองคุณแทบไม่อยากวิ่งเลย ยิ่งตึกชินระนี่ดูอลังการงานสร้างมาก มันดูยิ่งใหญ่มาก เห็นครั้งแรกผมถึงกับต้องหยุดแล้วหมุนกล้องดูเลย อลังการจริงๆ และด้านในยิ่งสวย ทำให้บางทีก็เสียดายนะถ้าจะรีบๆวิ่งผ่านไป

แถมท้าย 40 ชั่วโมงจบแบบไม่รีบและเต็มอิ่ม เก็บเควสรองหมด สู้บอสลับ ถามว่า 100 % ทุกอย่างไหม ตอบว่าไม่ เหลือแค่ไม่กี่อย่างที่ขี้เกียจเล่น ส่วนใหญ่เป็นมินิเกมส์ แต่พวกบอสหรืออะไรที่ต้องสู้นี่เก็บหมด ใครที่เคยอ่านเจอว่าเล่น 25 ชั่วโมงจบอันนั้นผมบอกได้เลย วิ่งตรงอย่างเดียวซ้ายขวาไม่สนใจ ไหนๆก็เล่นแล้วเล่นให้เต็มที่ไปเลย แล้วคุณจะสนุกและได้ความประทับใจกลับไปแบบเต็มๆ

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ความรู้สึกหลังได้เล่น seiken densetsu 3 trials of mana

บทความนี้ไม่ใช่รีวิวนะ เขียนตามอารมณ์ล้วนๆ

ต้องบอกก่อนเลยว่านี่คือหนึ่งในเกมส์ที่ผมรักมาก สมัย SFC เล่นจนจำแต่ล่ะซีนได้ว่าใครทำอะไรตรงไหน รู้ยันความสัมพันธ์เบื้องลึกของแต่ล่ะตัวละคร ( ใครที่ซื้อหนังสือบทสรุป Seiken 3 SFC ของผมไปก็จะรู้ เพราะเขียนให้แล้ว ) มาภาครีเมคครั้งนี้ผมหวังไว้มากนะ และพอเล่นเองแล้วไม่ผิดหวังเลย เกมส์เล่นแล้วเพลินมากกกกก คือมันคนล่ะอารมณ์กับ FF7R ที่ออกมาก่อนหน้า FF7R อารมณ์มันส์ ยิ่งเล่นยิ่งมันส์ แต่ด้วยความมันส์นั่นเองทำให้เล่นๆไปนานๆพลังหมด แต่ SE3 ยิ่งเล่นยิ่งเพลิน ไปได้เรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีตีสาม !

ในระหว่างที่เล่นภาพสมัยที่คุณเล่น SFC จะซ้อนทับเรื่อยๆ ซึ่งมันก็มีมาให้เกือบครบ ! ย้ำว่าเกือบครบ ! บางคนอาจจะไม่สังเกต แต่สำหรับผมที่จำซีนทุกอย่างได้ขึ้นใจมันมีบางซีนหายไป เช่น ฮอคอายช่วงแรกที่โดนจับขัง เวอร์ชั่น SFC เขาจะพยายามพังประตูออกมา ทั้งกระโดดใส่ กระแทกใส่ ทั้งใช้มือทุบ จนสุดท้ายมือบวมร้องจ๊าก แล้วนิกิต้ามาช่วย แต่ Remake จะตัดซีนที่พยายามพังกรงออกมา เป็นนิกิต้าระเบิดกำแพงมาเลย อีกซีน ตอนที่สู้กับโกเลมครั้งแรกที่สะพานไปฟอล์เซน่า หลังจากชนะแล้วมันจะระเบิด ซึ่งก่อนที่มันระเบิดนี่แหละ ของ SFC คนหนึ่งจะพยายามพลักมันออก คนหนึ่งจะตกใจทำอะไรไม่ถูก อีกคนก็พยายามวิ่งหนีจนสุดท้าย ตู้มมมมมสะพานขาด แต่ Remake ตัดออก มีแค่ฉากยืนเรียงกันสามคนแล้วโกเลมนอนกลางสะพานแล้วตู้ม ! มันสั้นไปหน่อย ถ้าใส่ของเก่ามาด้วยจะเห็นความวุ่นวายชัดเจนเลย น่าเสียดาย และผมว่าทั้งเกมส์น่าจะมีอีกเยอะที่ตัดซีนย่อยๆพวกนี้ออก ซึ่งต้องเป็นคนที่เล่นจนขึ้นใจแล้วเท่านั้นถึงจะจำได้และผมเป็นคนที่จำได้ขึ้นใจ เลยรู้




อีกอันที่ตัดออกแบบน่่เสียดายคือหีบสมบัติ สมัยเครื่อง SFC นี่หีบตรงทีไรเวลาเปิดถ้าติดรูเล็ตก็ต้องเสี่ยงดวงเอา ซึ่งตรงนี้มันเป็นอะไรที่ระทึกมาก หมุนๆเจอธนูยิ่งใส่ เจอหอกทิ่มจนเสียงดัง ตี้ดิ๋วตี้ดิ๋ว ! ต้องลำบากเติมขีดอีก แต่ remake เปิดได้เลยปลอดภัย และตัวสปริงที่ดีดเราไปบนฟ้าเพื่อดูแผนที่ก็หายไป น่าเสียดาย แต่สิ่งที่มันเพิ่มมาและขัดเกลาให้ดีขึ้นก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้และทำให้เกมส์สนุกเทียบเท่าของเดิม โดยเฉพาะแผนที่ที่คุณต้องวิ่งทุกซอกทุกมุม เพราะมันมีหีบหรือไหหรือไอเท็มซ่อนอยู่ จะวิ่งผ่านยาวเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ และ NPC บางคนถ้าคุยด้วยมันจะให้อบิลิตี้มา ! ตรงนี้ผมฟลุ๊คลองคุยเล่นๆเฉยๆ เลยๆได้ นี่เลยคิดว่างั้นเมืองก่อนๆก็อาจจะมีพลาดเพราะไม่ได้สนใจคุยกับพวกชาวเมืองธรรมดาเลย

สุดท้ายถ้าคุณจะเล่นผมแนะนำให้เล่น Hard ไปเลย มันไม่ได้ยากขนาดนั้น และโหมดนี้จะทำให้ความรู้สึกสมัย SFC กลับมาคือเสียง ตี้ดิ๋วตี้ดิ๋ว ! เลือดแดงจ้า ! normal มันง่ายไปหน่อย ยิ่งศัตรูจะมีเอเรียสีแดงขึ้นตอนจะโจมตียิ่งหลบง่ายเลย เพราะของเก่าเวลามันใช้เวทย์ใช้ท่ายังไงก็โดนเพราะเกมส์หยุดบังคับโดน แต่ remake คุณสามารถกลิ้งหลบไปพื้นที่ปลอดภัยได้ ก็เลยต้องเล่น hard แทนค่อยสนุกขึ้นมา และเสียงเพลงผมอินกับเสียงเพลง Original มากกว่ารีเมคนะ เพราะเพลงสมัย SFC มันก็สมบูรณ์ในตัวมันอยู่แล้ว และ remake เป็นภาพแบบการ์ตูนไม่ใช่เสกลสมจริงแบบ FF7R ผมว่าเพลง Original นี่แหละเข้ากันได้ดีสุดๆ คุณจะอินเพิ่ม 2 เท่า