วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560

รีวิว Fire Emblem Musou แบบจัดเต็ม

รีวิวนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนแรกเรื่องเกมส์เพลย์ กับส่วนที่สองคือด้านเนื้อเรื่อง ส่วนนี้อาจจะมี spoil บ้าง

ส่วนแรก
ก็ตามสไตล์เกมส์มุโช คือเดินหน้าฆ่าแหลก แต่กับเกมส์นี้จะมามั่วเอ้อระเหยไล่ฆ่าเพลินไม่ได้เดี๋ยว Game Over ไม่รู้ตัวเพราะ NPC ตาย หรือถ้าไม่ Game Over ก็ Side Mission Failed ซึ่งก็ทำหัวร้อนพอสมควร ( ถ้าไม่ซีเรียสจะผ่านไปเลยก็ได้แต่ไม่ได้ไอเท็ม ) ส่วนข้อเสียของเกมส์ตระกูลมุโชก็ยังมีอยู่คือพวกลูกกระจ็อกมันจะยืนตะคริวกินทั้งหมด.....จะมีแต่พวกบอสเท่านั้นที่พอจะตีเราตามปกติที่มันควรจะทำ มาดูที่ะส้วนกัน

- ท่าโจมตี
ถ้าเทียบกับตระกูลมุโชด้วยกันทั้งหมดเกมส์นี้ท่าอลังการสะใจมาก แสง สีเสียงมาเต็มดูรุนแรงสุดๆ ( แต่ลดนิสสสสสเดียว ในระดับ Lunatic )  ส่วนการผสมผสานคอมโบจะเหมือนมุโชคือกดตีเบาตามจำนวนครั้งและกดตีหนัก อาวุธจะมีการแพ้ทางตามสไตล์ FE ยิ่งใช้อาวุธได้เปรียบก็จะทำให้เกจสตันหมดไว ถ้าหมดแล้วเราจะใช้ท่าพิเศษปลิดชีพศัตรู ซึ่งลดเยอะมากและจำเป็นในการสู้บอส

- ระบบของเกมส์
มีการเก็บไอเท็มที่ได้จากการกำจัดศัตรูในด่านหรือทำ Side Mission มาใช้ในการอับสกิล ซึ่งก็แบ่งเป็นสกิลท่าโจมตี สกิลป้องกันด้านต่างๆ และสกิลอื่นๆติดตัวเช่น LV อาวุธ และท่าพิเศษ อาวุธจะดรอปตลอดทั้งเกมส์และก็มีการแบ่ง LV เหมือน FE ภาคหลักคือ EDCBA ถ้าเราได้อาวุธ LV C มาจะยังไใส่ไม่ได้ต้องไปเรียนสกิลถืออาวุธ LV C มาก่อน อาวุธนั้นจะมีสกิลติดได้หลากหลายเหมือนเกมส์ FE ภาคหลัก เช่นตีพวกเกราะหนักแรงขึ้น หรือแม้แต่ช่วยให้เกจมุโชเพิ่มไวขึ้นและอีกมายมายสกิลติดอาวุธ รวมทั้งสามารถย้ายสกิลของอาวุธอันนี้ไปให้อาวุธอันอื่นได้ ( อันเก่าจะหายไปเลย )

-อับคลาส
อับได้เมื่อเลเวล 15 อยุ่ในหมวดสกิลอื่นๆ ไอเท็มที่จำเป็นคือ master orb แต่การอับคลาสจะไม่มีการรีไปเลเวล 1 ใหม่ เลเวลจะนับต่อๆไปเลยมีแค่สเตตัสเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เพราะงั้นไม่ต้องดองเลเวล ถ้ามีไอเท็มก็รีบๆใช้ไปเลยจะได้เก่งไวๆ โดยที่เลเวลของเราเต็ม 99

-สั่งเพื่อนในแผนที่ได้
อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีเลย ปกติเกมส์ตระกูลมุโชคือเราวิ่งคนเดียวทั่วแผนที่ แต่เกมส์นี้เราสามารถสั่งได้ว่าจะให้เพื่อนเรามันไปกำจัดศํตรูตัวไหน หรือให้มันไปปกป้องใคร หรือถ้าใกล้ตายก็ให้วิ่งกลับฐานได้ รวมทั้งวิ่งไปอยู่ในพื้นที่ที่พลังเพิ่มเรื่อยๆ ซึ่งระบบนี้ถือว่าสะดวกมาก นอกจากนี้เรายังสามารถสลับไปบังคับเพื่อนที่อยู่ในแผนที่ได้ด้วย 4 คน ถ้าอยากบังคับคนอื่นที่ไม่อยู่ในลิสก็ให้เปลี่ยนเอาเขาลงและให้ไปอยู่ในลำดับ 4 คนแรก สามาถผสมผสานกับการสั่งเพื่อนได้ เช่นสั่งมันไปฆ่านายพล พอมันวิ่งไปใกล้ๆก็เปลี่ยนไปบังคับเองก้ได้  ระบบนี้ผมชอบมาก

-ความยากในเกมส์
มี 4 ระดับ Easy Normal Hard และ Lunatic ได้มาหลังจบเกมส์ ยิ่งยากศัตรูยิ่งอึดยิ่งตีแรง

-History Mode
หลังจบเกมส์จะมี History Mode เอาไว้เก็บเพื่อนที่เหลือ ไอเท็ม อาวุธ ซึ่งก็ขยายเวลาการเล่นให้ออกไปได้อีกยาวนาน



ส่วนที่สอง ส่วนนี้อาจะ spoil ใครกำลังเล่นหรือจะเล่นถ้าไม่อยากโดน spoil ขอให้หยุดแค่นี้
-จำนวนด่านมีเท่าๆกับ FE ภาคหลักปกติ ถือว่าพอดีๆไม้น่้อย ไม่มาก

- เนื้อเรื่องนั้นก็คือประเทศของพี่น้องชิโองกับรีอันโดนสัตว์ประหลาดบุก เลยต้องไปตามผู้กล้าจากช่วงเวลาต้่างๆมาช่วย ตรงนี้นั้นเนื้อเรื่องของภาค Awakening Fate และ Shadow Dragon นั้นจะไม่ได้อ้างอิงเหตุการณ์หลังจบภาคหลัก เช่น Awakening ลูคิน่าเพิ่งจะมาเจอโครมเอง ส่วน Fate พวกนั้นยังตามหาพี่น้องอยุ๋เลย แถมยังมาสู้กันเองด้วย ส่วน Shadow Dragon มาร์ทยังไม่เป็นเป็นวีรบุรุษ

ข้อดี
-ระบบของเกมส์คือข้อดีล้วนๆ ผสนมผสานกันำด้อย่างลงตัวระหว่าง FE ภาคหบักกับเกมส์มุโช
-เวอร์ชั่น Switch มีให้เลิอกระหว่างเน้นภาคสวยหรือเน้นเฟรมเรท
-ท่าอลังการสะใจวัยรุ่น

ข้อเสีย เยอะมาก
-มันจะใช้ดาบอะไรกันเยอะแยะขนาดนั้น ถ้าเทียบเป็น % ฝ่ายเราที่ใช้ดาบเป็นอาวุธมีถึง 60% ของทั้งหมด !!
-ท่าซ้ำกัน ตัวเอกชายหญฺงเหมือนกันแป๊ะ ต่างกันแค่ท่าคู่กับท่าไม้ตายใหญ่เฉยๆ โครมกับลูคิน่าก็เหมือนกัน ไม่มีเหตุผลอะไรเลยนอกจากคำว่ามักง่าย
-พวกบอสศํตรูมีแค่ 3 ตัว !!! WTF !!! มีภาคล่ะตัวเท่านั้น นอกนั้นที่ได้สู้ระหว่างทางเป็นพวกเราเองนี่แหละที่เข้าใจผิดบ้าง ทดสอบความสามารถบ้าง ตามหาคนบ้าง.....อันนี้ผมไม่ชอบเลย น่าจะเอาพวกบอสจาก 3 ภาคนั้นมาเยอะๆหน่อย อย่างน้อยก็ซัก 2-3 ตัวให้มันมีความรุ้สึกได้สู้ศัตรูบ้าง อันนี้ไม่มีเลยจ้าาาาได้สู้แต่กับพวกเดียวกันนี่แหละ
-จากข้อข้างบนมันก็เลยมีศัตรูที่เป็น Shadow ซึ่งก็คือฝายเรานี่แหละแต่เป็นตัวดำๆแทน ( ดูก็รู้ว่าเป็นใคร ) ยิ่งมักง่ายเข้าไปอีก
-ตัวละคร Original ฝั่งศํตรูถ้าไม่นับบอสใหญ่จริงๆมีแค่ 1 ตัวเท่านั้น อาเมนนนน ( 3 ตัว คือ บอสใหญ่ 1 โดนฆ่าแบบกากๆ 1 และอีก 1 ได้สู้ ) มันคงจะยากมากสินะกับการคิดออกแบบพวกนายพลฝั่งศัตรู แต่พวกนายพลธรรมดาคลาสพาราดีน เจเนรัล ฮีโร่อะไรพวกนี้ที่เราเห็นในภาคหลักก็เป็นแค่นายพลไร้หน้าศัตรูดาดๆธรรมดาทั่วไป
-History Mode ไร้สาระมาก ตอนแรกนึกว่าเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับภาคเก่าๆบ้าง เพราะเห็นมีแผนที่ มียูนิท แต่พอเล่นจริงไอ้ยูนิทพวกนั้นเหมือนเอาไว้เลือกด่านที่จะสู้ โดยตัวเราต้องเดินแบบภาคหลักคือถ้าจัดการยูนิทที่ขวางทางไม่ได้ก็ไปต่อไม่ได้ แล้วด่านที่เล่นก็ดันไม่เกี่ยวอะไรกับแผนที่เลย เหมือนเป็น Free Mode เนื้อเรื่องเอกเทศให้เล่นเฉยๆ ตัวละครก็กำหนดตายตัว เลือกฟรีไม่ได้ด้วย

สรุป ก็ยังคุ้มค่ากับการเล่นอยู่ดี ถึงแม้ว่า Story Mode กับ History Mode จะออกแนวเผายัดๆลงมาก็เถอะ แต่แค่เอามาเล่นดูท่าอลังการ บังคับตัวละครที่ชื่นชอบด้วยมือของตัวเองแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว แถมเล่นได้ยาวแน่ๆถ้าจะเก็บหมด เล่นกันจนภาคหลักภาคใหม่บน Switch ออกนุ็นนนแหละ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น