7 สิ่งที่จะทำให้ Final Fantasy 7 Remake กลายเป็นตำนานครั้งที่สอง
1. มันคือเกมส์ที่มีชีวิต
-- จากเวอร์ชั่น PS1 ที่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ มาเวอร์ชั่น Remake นี้จัดเต็ม ตัวละคร NPC ตามถนน ตามเมืองเวลาเราเดินผ่านมันจะมีบทพูดขึ้นมาเลย ไม่ต้องไปกดคุยก่อน ทำให้เรารู้ว่าชาวเมืองรู้สึกยังไง ทำอะไรกันอยู่ พอเหตุการณ์ผ่านไปบทพูดของพวกเขาก็จะเปลี่ยนใหม่เป็นอีกอย่าง ระหว่างการเดินทางไม่มีเหงาเลยจนบางครั้งต้องหยุดฟังมันคุยกันเพราะอยากรู้ชาวบ้านคิดยังไง บางคนสนุกสนาน บางคนเศร้า บางคนคุยเรื่อวข่าว บลาๆๆๆเยอะแยะมากมาย
2. ตัวละครหลักมีมิติมากขึ้น แสดงอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น
-- หลายๆเหตุการณ์กลุ่มตัวหลักจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ดีมาก ความรู้สึกห่วงใย ความรู้สึกเศร้า ความรู้สึกโกรธ มันสะท้อนได้ดีเพราะพวกเขานั้นก็เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งย่อมมีอารมณ์พวกนี้ และหลายๆเหตุการณ์ที่เราไม่เคยเห็นใน PS1 แต่ Remake นี้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาให้เห็นได้ดีเยี่ยม เช่น แอริธกับมารีน , ทีฟากับคลาวด์ , บาเร็ตกับมารีน มันเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก เกมส์นี้ทำให้พวกเขากลายเป็นคนจริงๆ จนคนเล่นรู้สึกผูกพันธ์กับพวกเขา
3. คัทซีนระดับเทพ
-- ฉากคัทซีนต่างๆยอดเยี่ยมมาก จังหวะมุมกล้อง จังหวะตัดภาพ มันเป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆตามสไตล์ของคุณโนมูระ ซึ่งคนนี้ผมยอมรับว่ากำกับคัทซีนเทพมาตั้งแต่หนัง FF 7 advent children แล้ว และต่อเนื่องมายังตระกูล KH แต่ FF7R นี้ผมว่ากำกับคัทซีนเทพกว่า KH เยอะ เพราะมันมีแอคชั่นเยอะกว่า และที่สำคัญคัทซีนกับเกมส์เพลย์ต่อเนื่องกันอย่างลงตัวไม่มีอารมณ์ว่ามันสะดุดเลย มันจะไหลต่อเนื่องกันจนคุณหยุดไม่อยู่
4. เพลงประกอบระดับตำนาน
-- เป็นการนำเพลงสมัย PS1 มาทำใหม่ ฟังแล้วติดหูมาก เพราะมากและเข้ากับฉากนั้นๆอย่างเนียนกริบ ตลอดระยะเวลาการเล่นไม่มีตรงไหนเลยที่รู้สึกว่าเพลงมันแปลกๆ เขาใส่มาได้เข้ากับฉาก เข้ากับสภานการณ์แบบสุดๆ และเพลงประจำตัวของเขาคนนั้น หูยยยยย ขนลุกยังไม่หาย....
5. เกมส์เพลย์แอคชั่นมันส์สะใจ
-- การเปลี่ยนระบบครั้งนี้เป็นอะไรที่คิดถูกมาก ใครที่ไม่ชอบ Action ลองเปิดใจและลองเล่น มันจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่ของเกมส์แอคชั่นที่สุดจริงๆ ตอนเล่นต้องผสมผสานทุกตัวละคร จะบังคับใครคนใดคนหนึ่งไปตลอดจนจบเลยทำไม่ได้แน่นอน เพราะทุกคนมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน และพอเอามารวมกันมาเสริมกันมันจะกลายเป็นการตะลุมบอนที่โหดมาก และมันส์สุดๆ ยิ่งตอน Boss Fight นะ โห ผมคิดว่านี่คือเกมส์ Boss Fight ที่สนุกและสะใจที่สุดแล้วเท่าที่ผมเคยเล่นมา แสงสีเอฟเฟคสวยงามตระกาลตา และไม่มั่ว คุณดูรู้เรื่องว่าใครทำอะไร ใครโดนอะไร สุดจริงๆกับแอคชั่นเกมส์เพลย์ แล้วคุณลองคิดดูอนาคตท้ายๆเกมส์พอเรามีท่าแรงๆมันจะมันส์ขนาดไหน คุณลองจินตนาการท่า omnislash ดูสิ..
6. side quest ที่ไม่น่าเบื่อและมีความพอดี
-- เกมส์นี้ Side quest ไม่เยอะ แต่ล่ะอันมีคุณค่ามันเป็นส่วนที่มาช่วยเสริมให้เนื้อเรื่องหลักดูแน่นขึ้น ไม่มีหรอกเควสที่ไปกำจัดศัตรูตัวนุ้นที ไปหาของให้ที คือมันก็มีแหละแบบที่กล่าวมา แต่ชั้นเชิงในการนำเสนอมันทำให้เควสดูมีคุณค่าไม่ใช่แค่ไปบอกให้กำจัดศัตรูไปหาของดื้อๆ เขาจะใช้วิธีเรียบเรียงให้มันเกิดเหตุการณ์ขึ้น แล้วเราต้องไปเคลียร์ เควสรองเกมส์นี้ น้อยแต่มีคุณภาพ
7. เมือง Midgar แบบสเกล 1-1
-- เมืองที่คุณเห็นแค่แคบๆ เห็นแค่ภายนอกตอน PS1 ตอนนี้คุณเห็นมันแบบเต็มๆตา ตรงนู้นเป็นยังไง ตรงนี้เป็นแบบไหนคุณได้เห็นแน่ๆ ครั้งแรกที่ผมเห็น Wall market โหวววว คือมันทำมาดูดีมาก ทุกอย่างดูแน่น ทำให้เวลาที่คุณเดินในเมืองคุณแทบไม่อยากวิ่งเลย ยิ่งตึกชินระนี่ดูอลังการงานสร้างมาก มันดูยิ่งใหญ่มาก เห็นครั้งแรกผมถึงกับต้องหยุดแล้วหมุนกล้องดูเลย อลังการจริงๆ และด้านในยิ่งสวย ทำให้บางทีก็เสียดายนะถ้าจะรีบๆวิ่งผ่านไป
แถมท้าย 40 ชั่วโมงจบแบบไม่รีบและเต็มอิ่ม เก็บเควสรองหมด สู้บอสลับ ถามว่า 100 % ทุกอย่างไหม ตอบว่าไม่ เหลือแค่ไม่กี่อย่างที่ขี้เกียจเล่น ส่วนใหญ่เป็นมินิเกมส์ แต่พวกบอสหรืออะไรที่ต้องสู้นี่เก็บหมด ใครที่เคยอ่านเจอว่าเล่น 25 ชั่วโมงจบอันนั้นผมบอกได้เลย วิ่งตรงอย่างเดียวซ้ายขวาไม่สนใจ ไหนๆก็เล่นแล้วเล่นให้เต็มที่ไปเลย แล้วคุณจะสนุกและได้ความประทับใจกลับไปแบบเต็มๆ
ขออนุญาตเรียนถามแอดขอถามคำถามว่า แอดชอบ 100% เต็มรูปแบบ rpg ภาค เจ็ด เพลย์วัน เลือกคอมมานด์เป็นภาษายุ่น(เวอร์แจ๊ป) หรือว่า แอดชอบ 50% rpg 50% act ภาค เจ็ดอาร์ เพลย์โฟร์ (ผมไม่มีเพลย์โฟร์ ไม่แน่ใจว่า ภาค เจ็ดอาร์ มีให้เลือกคอมมานด์ หรือไม่)
ตอบลบแอดชอบภาคไหนมากกว่ากันครับ? เจ็ดออ(ริจิน่อล) หรือว่า เจ็ดอาร์(เมค)
เพราะว่าผมไม่มีเพลย์โฟร์ ผมยังคงรัก ภาค เจ็ด อยู่ ภาคนี้ในความทรงจำ