วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

รีวิว Romancing Saga 2 Revenge of the seven

 รีวิว Romancing Saga 2 Revenge of the seven

จากผู้ที่ชื่นชอบภาคนี้มากที่สุดและทำหนังสือภาค Remaster ออกมา
เติมเต็ม สมบูรณ์ มาตราฐานเดิมว่าสูงแล้วมารีเมคตัวนี้คือจะกลายเป็นสุดยอด JRPG ได้ลย คือจะบอกว่า RS2 ระบบมันล้ำมากนะครับ คือสมัย SFC นั่นคือคิดได้ยังไงระบบแบบนี้ คือมันล้ำซะจนไม่นึกว่าเกมส์สมัย SFC จะทำได้ หลังจาก Remaster ภาพให้สวยเนียนไปรอบหนึ่ง ครั้งนี้คือ Remake เต็มรูปแบบ ไม่มีคะแนนอะไรให้เลยนอกจากคำว่า "สมบูรณ์แบบ"
- กราฟฟิค
ผมว่าสวยนะ เกมส์ที่เป็นธีม Anime การ์ตูนแบบนี้ภาพมันก็คงประมาณนี้และ จะให้ไปแนวสมจริงแบบ FF16 เลยก็ไม่ใช่ สิ่งที่เด่นมากๆและผมชอบมากคือรายละเอียดเสื้อผ้าชุดเกราะมีลวดลายสวยงาม พร้อมด้วยเครื่องประดับทำให้ตัวละครหลักทุกคน ย้ำทุกคน ! ดูดีมากกกก ชุดเกราะสวย เสื้อผ้าก็สวย เก็บรายละเอียดเนี๊ยบมากมีแม้กระทั่งไฝตรงหน้าอก....คือชุดแต่ละคนมันเนี๊ยบมากจริงๆ และโมเดลตัวละครหลักนี่แบบสวยหล่อทุกคน ตัวละครหญิงก็บึ้มทุกคน Very Good !!


-เพลง
ทำใหม่อลังการงานสร้างกว่าเดิม แต่ก็มีให้เลือกว่าจะฟังแบบ Classic เปล่า แต่ไหนๆก็รีเมคแล้วฟังเวอร์ชั่นทำใหม่ไปเลยเถอะ
-ระบบของเกมส์
เรียบเรียงใหม่ทำให้เล่นง่ายขึ้นเยอะ เหมือนกรณีของ tactic ogre ที่ภาค Reborn เรียบเรียงระบบให้เล่นง่ายขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น เกมส์นี้ก็เหมือนกันครับ นอกจากจะเล่นง่ายขึ้น เข้าใจง่ายขึ้นแล้วยังมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้หลายๆอย่าง มือใหม่คือเล่นได้สบายๆไม่ต้องมานั่งงมเองเหมือนสมัยก่อน ระบบสืบทอดจักรพรรดิเข้าใจง่ายขึ้นและดูดีขึ้น ระบบปิ๊งท่าก็มีไอคอนแสดงบอกว่ามีโอกาสปิ๊งท่าใหม่นะจากการสู้กับศัตรูตัวนั้นตัวนี้ คือตีไปเรื่อยๆเดี๊่ยวมันก็ปิ๊งเองไม่ต้องมานั่งเดานั่งลุ้นว่าจะปิ๊งท่าหรือเปล่า ระบบจุดแข็งจุดอ่อนศัตรูก็มีบอกชัดเจน และระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง OverDrive กับตีศัตรูก่อนเข้าสู้ก็ช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นเยอะ แต่ถ้าใครคิดว่ามันง่ายจังมีบอกหมดแนะนำให้เข้า Option แล้วไป off พวกหน้าต่างแสดงตัวช่วยครับ คุณจะได้เล่นแบบไม่มีอะไรบอกเลย ก็นั่งงมกันไป แต่ผมว่าเปิด On นั่นแหละดีแล้ว
-เกมส์มีความอิสระสูง
แรกๆก็ตามเส้นทางตรงไปก่อนและหลังจากนั้นจะมีทางเลือกให้ผู้เล่นเลือกว่าจะไปทำอะไรก่อนหลัง แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลต่อเนื้อเรื่องโดยรวม ทำ Event นี้พลาด Event นั้น ทำ Event นั้นพลาดเพื่อนคนนี้ คือมันจะเป็นแบบนี้ไปทั้งเกมส์ครับ คุณต้องวางแผนให้ดีว่าจะลำดับเนื้อเรื่องยังไงถึงจะเก็บ Event ให้สมบูรณ์มากที่สุดและได้เพื่อนครบทุกคน โดยเฉพาะบอสหลักของเกมส์คือ 7 วีรบุรุษ คุณจะเจอร่าง 1 หรือร่าง 2 ก็อยู่ที่ว่าคุณเดิน Event มาแบบไหน
-สิ่งใหม่ๆภายในเกมส์
แน่นอนว่ามันจะมีแต่ของเก่าเลยก็คงไม่ได้ อาชีพใหม่ 2 อาชีพ และระบบอบิลิตี้ที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมา (ของเก่าไม่มี) ทำให้ตัวเรามีความสามารถหลากหลายมากขึ้น ปรับแต่งให้เข้ากับการต่อสู้ในสถานะการต่างๆได้ดีขึ้น หลังจบเกมส์มีเนื้อเรื่องพิเศษและบอสลับให้สู้ และมี New Game + และความยากอีกสองระดับเพิ่มเข้ามาคือ Very Hard กับ Romancing (ยังยากไม่พออีกเหรอลูกพี่ !!!!)
-performance ของเกมส์
ผมเล่นบน PS5 ครับ แทบไม่รู้สึกสะดุดหรือภาพหยักแต่อย่างใด แต่ก็เห็นบางคนในกระทู้ที่อื่นบอกภาพไม่ค่อยสวย อืมมมม ผมเล่นบน PS5 แสงเงาก็สวยมากๆแล้วนะ คือได้ขนาดนี้กับเกมส์ธีม Anime คือสวยแล้ว แต่ของ Switch นี่ผมไม่แน่ใจนะว่าจะดรอปลงไปเยอะไหม แล้วยิ่ง Switch แบบ handle นี่น่าจะโดนลดประสิทธิภาพไปเยอะอยู่นะ
-เกมส์มีชีวิตมากขึ้น
คือเกมส์ RPG สมัยก่อนมันคุยกันสั้นนะครับคุยกันนิดเดียวเข้าเรื่องเลยไม่ต้องมาอารัมภบทมากมายเพราะงั้นหลายครั้งมันก็เลยดูรีบไปหน่อย ความสัมพันธ์ความห่วงใยของตัวละครแทบไม่รู้เลยเพราะมันรีบคุยรีบดำเนินเนื้อเรื่อง แต่ครั้งนี้บทสนทนาถูกเพิ่มเติมให้แสดงความรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม มีชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงต้นเกมส์ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดิลีออน,วิคเตอร์และเจอร์ราดได้ดีกว่าเวอร์ชั่นเก่าเยอะเลย แต่ก็ด้วยบทสนทนาที่เยอะขึ้นเพราะงั้นเวลาเลือกตอบคำถามอาจจะไม่เหมือนเดิม ก็ให้เลือกตอบประโยคที่มีบริบทเหมือนเดิมเอา


-เรื่องราวที่ถูกเติมเต็มของ 7 วีรบุรุษ
เมื่อก่อนเราแทบไม่รู้เรื่องอดีตของพวกเขาเลย ช่วงที่พวกเขาเป็นมุนษย์พวกเขาทำอะไร สู้กับอะไร แล้วทำไมถึงถูกหักหลัง บลาๆๆๆ มาภาครีเมคนี้เนื้อเรื่องส่วนนี้ถูกเติมเต็มทำให้เรารู้ภูมิหลังของพวกเขาและเหตุผลที่ต้องกลับมาแก้แค้นมนุษย์
ทั้งหมดก็คงประมาณนี้ครับ ใครที่ไม่เคยเล่นแนะนำ Normal ก็พออย่าไป Hard เลยไม่งั้นคุณจะเสียเวลาสู้มากเพราะเกมส์นี้ศัตรูเก่งตามเรา แต่ถึงจะบอกแบบนั้นก็ไม่แนะนำให้วิ่งหลบเยอะๆนะ สู้ๆไปเถอะถึงศัตรูมันจะเก่งตามเราแต่เราก็เก่งกว่าอยู่ดี การที่มีท่าไม้ตายเยอะ HP เยอะ พลังโจมตีสูงย่อมทำให้เล่นได้สบายกว่า สุดท้ายนี้จะบอกว่าเกมส์นี้คือ JRPG แบบ Turn Base ที่สนุกที่สุดในรอบหลายปีของผมเลยนะ คือนึกไม่ออกเหมือนกันว่าเกมส์สุดท้ายที่เป็น JRPG Turn Base ที่ผมเล่นแล้วสนุกคือเกมส์อะไร ??
อ้อ ลืมไป จะว่าดีหมดทุกอย่างก็ไม่ใช่ ข้อเสียก็มีและเป็นจุดเด่นด้วยคือ...ไม่มีท่าเตรียมตัวแบบเตะขาชี้ฟ้าแล้ว oh my godddd ยกเลิกทำไมมมมมม ไอ้ท่าเตรียมเตะขาชี้ฟ้านี่คือเอกลักษ์ของตระกูลนี้เลยนะ....เสียจุย - -a

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Tactic Ogre Reborn ข้อมูลเผื่อคนที่สนใจอยากจะเล่น

 อยากให้คนที่ไม่เคยเล่นหรือเล็งมานานแล้วได้ลองเล่นเกมส์สุดยอด Tactic Turn Base ที่ดีที่สุดตลอดกาลอันดับ 1 ของโลก (ความคิดส่วนตัว) ผมเขียนข้อมูลเบื้องลึกให้อ่านกัน 7 ข้อเลยนะ และข้อมูลนี้จะเขียนลงบล็อคด้วยเพราะข้อมูลภาษาไทย tactic ogre reborn แทบไม่มีเลย

1. เนื้อเรื่องที่โคตรจะดราม่าการเมืองจัด 

- ทรยศ หักหลัง หลอกใช้ มีมาหมด คุณจะได้ลิ้มรสดราม่าแรกในตัวเลือกสั่งให้ฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ! แน่นอนว่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะเลือกปฏิเสธเพราะมันขัดกับหลักคนดีภายในจิตใจของผู้เล่นถึงแม้เกมส์จะอธิบายเหตุผลว่าทำไมต้องฆ่าประชาชนก็ตามแต่ก็นะ...มันผิดหลักคนดี  ซึ่งหลังจากนี้มีผลกับเส้นทางและไวส์จะยังเป็นคนดีหรือกลายเป็นคนเลวก็ขึ้นอยู่กับการตอบคำถามของเรา ใครที่ชื่นชอบเกมส์ Final Fantasy Tactic แล้วติดใจเกมส์ที่มีเนื้อเรื่องการเมืองแบบนั้น ขอบอกว่านี่แหละคือต้นตำรับ

2. ไม่แนะนำให้เล่นแบบ Blind play

-หรือก็คือเล่นแบบไม่รู้อะไรเลยแล้วไปเรื่อยๆตามเกมส์ ถ้าเล่นแบบนี้คุณจะไม่ได้เพื่อนหลายคนเลยล่ะโดยเฉพาะตัวเก่งๆและมีโอกาสสูงที่คุณจะไปจบ Bad Ending เพราะงั้นจงเปิด Guide ในเน็ตแล้วเลือกสายว่าจะไปสายไหนและเพื่อนมีใครบ้าง เงื่อนไขการได้เพื่อนไม่ได้มีแค่ให้พวกเขารอดตายเท่านั้น บางคนรอบทสนทนา บางคนต้องเอาคนอื่นเข้ากลุ่ม บางคนต้องมี Event พิเศษ ซึ่งพวกนี้พลาดแน่นอนถ้าไม่มี Guide 

3. ความยากอยู่ในขั้นสูง

- ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบคิดวางแผน มันยากเพราะแทคติกล้วนๆสเตตัสฝ่ายเรากับศัตรูพอๆกันเพราะงั้นจึงสูสี มีแค่บอสเท่านั้นที่มันจะมีบัฟการ์ดติดตัวมาเลย 4 ใบ เวลาเล่นต้องวางแผนดีๆแรกๆอาจจะไม่เท่าไร แต่หลังๆนี่ คุณพระ...ต้องรอบคอบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ต่อให้เดินพลาดตัวละครตายก็ยังมีเวลา 3 เทิร์นให้ชุปกลับมาอีกครั้ง (ถ้าหมด 3 คือตายเลย) เวทย์ทุกเวทย์หรือสกิลทุกสกิลสำคัญตามสถานการณ์ต่างๆเพราะศัตรูมีแพ้ทางธาตุและอาวุธบางชนิดก็จะตีศัตรูที่สวมเกราะบางอย่างไม่เข้า เช่น ธนูจะยิงพวกใส่เกราะเหล็กลดน้อยมาก และผมจะบอกให้ว่าปกติผมเล่นเกมส์ RPG อื่นๆแทบไม่ใช้เวทย์หลับ เป็นหิน โปรยเสน่ห์อะไรพวกนี้ใส่ศัตรูเลย แต่เกมส์นี้ต้องทำ ! เพราะบางครั้งก็รับมือไม่ไหวต้องมีหยุดการเคลื่อนไหวบางตัวบ้าง อีกอย่างคือถ้ามีโอกาสฆ่าบอสได้ให้พุ่งไปฆ่ามันเลยจะได้ผ่านด่าน ถุงดรอปไอเท็มช่างมันเพราะมีแต่ของที่ซื้อได้ ถ้ามัวแต่ลีลาเก็บทุกตัวทุกคนเผลอๆจะได้โหลดใหม่หลายรอบ 

4. หลังจบเกมส์คือจุดเริ่มต้น

- คำพูดนี้ไม่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะหลังจบเกมส์คุณจะปลดล็อคระบบสุดท้ายของเกมส์คือย้อนเวลา คุณสามารถย้อนไปเก็บเพื่อนที่พลาด ย้อนไปทำ flowchart เนื้อเรื่องให้ครบ ซึ่งเกมส์นี้มี 3 เส้นเรื่องเพราะงั้นการที่คุณเล่นจบไป 1 ก็ยังเหลืออีก 2 ทางแต่นี่ก็ยังไม่รวมทางแยก flowchart ย่อยๆในเส้นเรื่องเดิมนะ แต่ถีงจะย้อนได้มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะย้อนไปด่านไหนก็ได้ เกมส์จะกำหนดมาแล้วว่าคุณจะย้อนไปได้ช่วงนี้หรือช่วงนี้ ถ้าด่านไม่ตรงกับที่ต้องการก็ต้องย้อนมาแล้วเล่นให้มันเดินหน้าไปเรื่อยๆจนถึงด่านที่กำหนด

5. Level Sync

- จากข้อ 4 ที่สามารถย้อนเวลาได้แต่เนื่องจากเกมส์ค่อนข้างยากใช้สมาธิสูงผู้สร้างเลยเพิ่มตัวเลือก Level Sync ให้ ถ้าเปิด ON เท่ากับว่า LV ของเรา (รวมทั้งพลังโจมตีของอาวุธและพลังป้องกันของอุปกรณ์สวมใส่) จะลดลงเท่ากับเนื้อเรื่อง ณ จุดจุดนั้น แต่ถ้าไม่ไหวแล้วอยากเล่นแบบสบายๆบ้างก็ปิด  Level Sync OFF ไปเลย ถ้าปิด LV ของเรารวมทั้งอุปกรณ์ทุกอย่างจะเท่าเดิมหลังจบเกมส์ช่วยให้ผ่านง่ายขึ้นไม่เสียเวลาเหมาะกับการรีบๆทำ flowchart ให้ครบ 

6. เดเน็บคลาส"แม่โม้ดดดดด" ตัวอวยพิเศษ

- เอาจริงๆก็คือคลาส Witch ธรรมดานี่แหละแต่เป็นการเล่มคำเพราะงั้นคลาสเธอจะเป็น Wicce ที่มีพลังเวทย์ระดับสูง แนะนำให้ชวนเธอเป็นคลาสนี้ให้ได้ถ้าไม่ได้เธอจะเป็นคลาส Witch ธรรมดา ซึ่งคลาส Wicce ต้องทำเงื่อนไขพิเศษเพิ่มคือต้องไปหา Relics มาอับเกรดให้ได้ 3 ครั้ง (ต้องมี Relics 4 อันที่เหมือนกัน) ซึ่งหาได้จากพระราชวังแห่งความตายชั้นที่ใกล้ที่สุดคือชั้น 8 หลังจากเก็บได้จากการกำจัดศัตรูแล้วก็ถอยทัพแล้วเข้าไปชั้น 8 ใหม่เก็บจนได้อันเดิม 4 ชิ้น (ห้ามเล่นจนเคลียร์ชั้น ให้ถอยทัพ)


7. พระราชวังแห่งความตาย

- จะปรากฏขึ้นมาใน Chapter 4 มีทั้งหมด 115 ชั้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเล่นหมดทั้ง 115 ชั้นเพื่อไปถึงชั้นที่ลึกที่สุด มันจะมีทางแยกเพื่อย่นระยะทางได้ เช่น ทางแยก 22 23 25 กับ 26 27 28 ซึ่งทั้งสองทางจะไปบรรจบกันที่ชั้น 29 ปลายทาง (สมมุติ) เพราะงั้นจำนวนชั้นที่เล่นจริงๆจะประมาณ 70 กว่าๆชั้น แต่ๆๆๆๆๆ ถ้าจะเก็บ flowchart จำนวนด่านให้ครบต้องเล่นทุกชั้นต่อให้เจอทางแยกก็ต้องวิ่งวนไปเล่นอีกทางจนครบ 115 ชั้น.....และถ้าคุณเข้ามาในพระราชวังแห่งความตายหลังจบเกมส์แล้วคุณจะไม่สามารถใช้  Level Sync OFF ได้ เกมส์จะกำหนดเป็น Level Sync ON เท่านั้น ! นั่นก็หมายความว่าเราต้องสู้กับศัตรูแบบสูสีในนี้ตลอดเส้นทางไปจนจบ.....ปลายสุดเราจะได้ลุงวาร์เร้นเป็นเพื่อน (ต้องเข้ามาหลังจบเกมส์ใน CODA2) ยังไม่พอยังมีดันเจี้ยนอื่นๆให้เข้าไปลุยอีกมากมายเพื่อเก็บคัมภีร์พัฒนาอาวุธ,มหาเวทย์สุดแรง,อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูง ซึ่งพวกนี้ไม่มีขายในร้าน และของดีสุดอยู่ใน CODA4 หลังจบเกมส์


ทั้งหมดทั้งปวงก็ 7 ข้อนี่แหละ อย่างที่ผมบอกครับ เก็บครบทุกอย่างยังไงก็ 100+ ชั่วโมง เผลอๆจะ 200+ ด้วยเพราะผ่าน CODA4 ไม่ได้ 5555555 สุดท้าย เล่นเถอะครับ ไม่อยากให้พลาดจริงๆ