มหากาพย์ Final Fantasy ตอนที่ 3
XV Royal Edition vs 7 Remake vs XVI
ยกที่ 5 เพื่อนร่วมทาง
ถ้าเอาความหลากหลายของเพื่อนร่วมทางและอยู่ยาวจนจบเกมส์ก็คงต้อง 7RE บาเร็ต ทีฟา แอริธ เรด13(NPC) ผสมชายหญิงและการต่อสู้หลายแบบหลายสไตล์แบบลงตัวที่สุด แต่ไม่มีท่าคู่หรือแอคชั่นอะไรที่มันดูช่วยเหลือกัน (แต่ตัวอย่าง 7Rebirth มีท่าคู่แล้ว) อย่างน้อยแหละมีสองสาวสวยร่วมทางไปจนจบยังไงปาตี้ก็ดูมีชีวิตชีวาและได้เปรียบอีก 2 ภาคอย่างเห็นได้ชัด งั้นมาดู 15 บ้าง จะบอกว่าแห้งแล้งที่สุด ชายล้วนตั้งแต่ต้นยันจบ จริงอยู่ว่าอาจจะมีสาว NPC มาแจมอย่างอาราเนียหรืออีรีสแต่มันก็แค่แปปเดียว นอกนั้นทั้งเกมส์คุณต้องอยู่กับชายทั้ง 4 ข้อเสียก็คือมันแห้งแล้งนี่แหละ แต่ข้อดีมันก็มีคือเราจะผูกพักและรู้สึกว่าพวกเขาเป็นครอบครัว คือเดินทางกันมายาวนานตอนสู้ก็มีแอคชั่นช่วยเหลือกันและกันตลอด รู้สึกอบอุ่น แต่ก็นั่นแหละ.....มันชายล้วนนี่....ส่วน 16 อันนี้ก็แทบไม่ต่างกับ 15 ดีหน่อยที่มีน้องจิลร่วมทางไปครึ่งค่อนเกมส์ ถ้าไม่มีจิลนะแห้งแล้งกว่า 15 อีก โลกก็มืดอึมครึมยังจะต้องมาเดินกับชายชาตรีต่ออีก..... เพื่อนร่วมทางของ 16 จะสลับกันเข้าๆออก คนนี้เข้าคนนุ้นออก คนนุ้นเข้าคนนี้ออกทั้งเกมส์มันเลยรู้สึกเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาบ่อยแต่อย่างน้อยๆก็มีน้องหมาที่คอยอยู่กับเราทั้งเกมส์ นี่ถ้าไม่มีน้องหมานะยิ่งแห้งแล้งเข้าไปอีก
สรุป ถ้าถามหาความหลากหลายของปาร์ตี้ยังไงก็ 7RE ส่วน 15 กับ 16 ไม่รู้จะให้อะไรดีกว่ากัน อีกเกมส์ชายล้วน อีกเกมส์ก็เข้าๆออกๆทั้งเกมส์
ยกที่ 6 ท่วงท่าของการต่อสู้
ยังไม่ใช่เรื่อง gameplay นะ แค่เอาท่าการการออกแอคชั่นเฉยๆ 7RE แอคชั่นของคลาวด์โดนจำกัดเนื่องจากมันอยู่แค่ช่วงแรกของเกมส์ limit break ใช้ได้แค่ 2 ท่าเท่านั้น จะว่าไปมันก็ดูไม่หลากหลายแหละ เรื่องนี้คงต้องรู้ดูใน Rebirth ว่าจะมีให้ใช้ถึง omnislash หรือเปล่าแต่คิดว่าคงไม่ถึง....16 มันเป็นท่าของมนต์อสูร จะว่าอลังไหมเหรอ ? คือมันโดนลดสเกลความอลังการลงเพราะคนใช้ไม่ใช่มนต์อสูรใช้ อย่าง megaflare ของบาฮามุท ถ้าอสูรปล่อยเองอ่ะอลังการ แต่พอไครฟ์เป็นคนใช้แล้วสเกลมันลดลงกลายเป็นพลังคลื่นเต่าซะงั้น แต่พอได้ดาบของ odin มาก็ดูดีขึ้นเยอะ ฉุบฉับฉุบฉับรัวๆ ท่า limit break ประจำตัวสวยๆไม่มีเลยน่าเสียดาย เป็นแค่โจมตีแล้วไฟลุกเฉยๆ ส่วน 15 หลังจากน็อคติสได้อาวุธกษัตริย์ครบ ได้แหวน และปลดปล่อยพลังของกษัตริย์ที่แท้จริงหน้ารูปปั้น ถ้าทำ 3 อย่างนี้ครบเมื่อไรนะ บอกเลยว่าเทพสุดและสวยสุด อย่างที่ผมเคยบอกบ่อยๆไอ้พลังที่มีอาวุธหมุนรอบๆตัวมันโคตรเท่ห์เลยให้ตายสิ ยิ่งตอนใช้พลังนะ โหหหห คือตัวอย่างเกมส์ทำได้ยังไงในเกมส์จริงก็ทำได้แบบนั้น ไม่มี Final ภาคไหนที่ limit break จะเท่ห์เท่านี้อีกแล้ว ต่อให้ไม่ได้สู้กับใครแค่เดินแล้วอาวุธหมุนรอบๆตัวก็เท่ห์แล้ว
สรุป 15 เท่ห์สุดด้วยพลังของกษัตริย์ที่แท้จริง 7RE พี่คลาวด์เรายังเก็บเลเวลไม่เต็มท่าทางแอคชั่นเลยได้แค่นี้ ส่วน 16 เหมือนจะจืดสุดนะในความคิดผม
ตอนหน้าเดี๋ยวมาจัดเต็ม gameplay
มหากาพย์ Final Fantasy ตอนที่ 4
XV Royal Edition vs 7 Remake vs XVI
ยกที่ 7 ความลงตัวของ gameplay
15 ผมว่ายังมีความเป็น RPG ปนอยู่กับ Action นะ มันไม่ได้พริ้วไหวดังสายน้ำขนาดจะไม่โดนโจมตีเลย จริงอยู่ว่าการกด O ค้าง (หรือป่าวจำไม่ได้แหละ) น็อคติสมันจะหลบให้อัตโนมัติ แต่เกจ MP ก็จะลดลงเรื่อยๆ แต่บางครั้งมันออก Action อยู๋ไงเลยกด O ไม่ได้ก็โดนหวดไป จริงๆแล้วผมเล่น 15 สนุกนะ คิดว่ากำลังพอดี อาวุธแรงขึ้นตามที่เราอับเกรดแบบจริงๆทำให้เวลาเจอศัตรูธรรรมดาตามทางไม่ต้องใช้ท่าใหญ่ตีธรรมดาไปเดี๋ยวมันก็ตาย บางตัวอาจจะอึดขึ้นมาหน่อยโดยเฉพาะพวกตัวใหญ่ๆแต่มันก็สู้สนุกมากนะ มาดู 7RE บ้าง ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะผสม Action และ RPG ยังไงให้ดีกว่านี้แล้ว ทางด้านระบบ gameplay ผมให้ 7RE ดีที่สุด เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก มีความเป็น Action เยอะและไม่ทิ้งความเป็น RPG คือมาพบกันคนล่ะครึ่งทางระหว่างเขย่าตัวอยู่กับที่แบบเดิมกับแอคชั่นสมัยใหม่ เป็นภาคที่ผมว่าระบบดีที่สุดและสนุกที่สุด ขาดก็แต่ท่าคู่แต่ Rebirth มีแน่จากตัวอย่าง ภาค 15 ยังมีการหน่วงของเวลาอยู๋บ้าง แต่ 7RE แทบไม่รู้สึกเลย มันจะหน่วงแค่ตอนเราเลือกเป้า เลือกเวทย์ ซึ่งตรงนี้จะมีความเป็น turnbase เข้ามา มาถึงภาค 16 ผมเล่นแบบไม่ใส่แหวนอัตโนมัตินะ เพราะงั้นจะบอกว่า Action 100% เลยแหละ แต่มันยังไม่สุด เหมือนเป็นการสู้รอสแปมสกิลเฉยๆ พอสกิลคูลดาวน์เสร็จใช้ไปเลย 12345 เรียงๆกันเพื่อเพิ่มความเสียหายอย่างมหาศาล พอใช้เสร็จก็รอเวลาคูลดาวน์แล้วกลับไปใช้ 12345 ใหม่ วนไปเรื่อยๆ จริงอยู่ว่าสกิลมันเยอะสามารถพลิกแพลงได้หลากหลายเท่าที่ผู้เล่นจะทำ แต่ก็นั่นแหละ ยังไงมันก็เป็นการสู้เพื่อสแปมสกิลอยู่ดี แล้วพวกศัตรูระดับกลางขึ้นไปนี่คุณจะมายืนตีปกติมันตายยากนะ คือไครฟ์ตีปกติเบามากกกกกก และไม่มีท่าทางอะไรเลย ต่อให้ไปท้ายเกมส์ตีปกติก็ยังลด 2-4 ร้อยอยู่ดี เวลาเจอศัตรูระดับกลางๆขึ้นไปยังไงก็ต้องพิ่งสแปมสกิลอยู่ดีไม่งั้นยืนตีไปเถอะกว่ามันจะตายถ้าไม่ใช้สกิลซึ่งภาค 15 กับ 7RE ต่อให้เจอศัตรูระดับกลางก็ยังตีปกติได้เดี๋ยวมันก็ตายเพราะพลังโจมตีปกติขึ้นหลักพัน แต่ 16 ยังอยู่แค่หลักร้อยเลยต้องพึ่งแต่สกิลตลอดทั้งเกมส์
สรุป 7RE ชนะเลิศด้วยระบบ gameplay ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวที่สุด รองมาผมให้ 15 นะเพราะเล่นสนุกกว่า ส่วน 16 สแปมสกิลมากไปหน่อย
ยกที่ 8 BOSS FIght !!
เอาจริงๆ 15 ที่เป็น Boss fight ถือว่าน้อยนะ ส่วนใหญ่จะไปเน้นพวกล่ามอนสเตอร์ระดับสูงแทน แต่เจอทีสนุกมากอย่างที่ผมเคยบอกในตอนก่อนๆว่าเวลาเจอศัตรูตัวเป้งๆเกมส์จะบรรเลงเพลง OMNIS LACRIMA ถึงพวกนี้จะไม่ใช่บอสแต่จากความตึงมือและเพลง OMNIS LACRIMA ก็ทำให้เพิ่มอรรถรสในการสู้ได้อย่างมากมาย ตัวเป้งจริงๆคือ Omega ใน 15Royal Edition ตัวนี้ผมสู้อยู่เป็นชั่วโมงกว่ามันจะตาย เป็น Boss Fight ที่สนุกที่สุดเลยแหละเท่าที่เคยสู้ ส่วนเต่ามันแค่พลังเยอะเฉยๆนอกนั้นไม่มีอะไร สู้ไปหาวไป ส่วน 7RE ภาคนี้บอสเยอะ ศัตรูธรรมดาที่เคยเจอในเวอร์ชั่น Original มาภาค RE ดันกลายเป็นบอสเฉย แล้วก็ไม่ใช่บอสง่อยๆด้วยนะสู้สนุกมาก เช่น ไอ้หุ่นยนต์ปลาในตึกชินระ ภาคปกติเป็นแค่กี้ๆแต่ภาค RE เป็นบอสให้ทีฟากับแอริธสู้แถมตึงมืออีกต่างหาก แต่ก็อย่างที่บอกมันแค่ต้นเรื่องเท่านั้น ลูกเล่นและบอสที่เจอมันก็มาแค่นี้ ไว้รอเจอของจริงตัวเป้งๆภาคหลังๆ ไม่รู้ว่า Rebirth จะดำเนินเนื้อเรื่องไปถึงสู้กับพวก Weapon หรือเปล่านะ รอลุ้น....ส่วน 16 Boss Fight การตบกันระหว่างมนต์อสูรผมว่าไม่น่าจะมีเกมส์ไหนบนโลกนี้ทำได้อลังการและขนลุกเท่ากับ FF16 อีกแล้ว (ถึงตอนนี้นะ) คู่แรกว่า hie แล้ว คู่สองมา โอ้วววว ชิทททท เวอร์ไปแล้วลูกพี่ คู่สามมายังพีคได้อีกเหรอว่ะ บ้าไปแล้วววววว อารมณ์แบบนี้เลย แต่เนื่องจากเนื้อเรื่องมันดัน set มาถึงความยิ่งใหญ่และทรงพลังของบรรดาร่างสถิตของมนต์อสูรเพราะงั้นเลยทำให้บอสธรรมดาเดินดินทั่วๆไปดูอ่อนด้อยลงมาพอสมควร ซึ่งก็ตามนั้นบอสปกติเดินดินง่อยมากไม่มีอะไรให้น่าจดจำ มีแต่เบฮีมอสนี่แหละที่พอสู้สนุกแต่จะว่าไปเบฮีมอสมันสู้สนุกทุกภาคอยู่แล้วนะ
สรุป เลือกยากดีคนล่ะแบบ 16 ไคจูตบกันที่อลังการที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเกมส์ 15 บอสที่อยู่ในหมวดล่ามอนสเตอร์ดันสู้สนุกกว่าบอสจริง 7RE บอสเยอะสู้สนุกทุกตัว เอาเป็นว่าดีคนละอย่าง